สุขภาพ

ดื่มกาแฟให้ได้ผลสูงสุดและมีประโยชน์มากสุดดื่มอย่างไร
หากอยากรู้ว่าปริมาณการดื่มกาแฟในแต่ละวันของคนเรานั้นปริมาณมากเท่าไหร่สามารถอ่านได้ในฉลากก่อนดื่ม

200 มิลลิกรัม   ทำให้ร่างกายกระชุ่มกระชวย สดชื่น ซึ่งเอสเปรสโซ่ 1 ช็อต มีปริมาณคาเฟอีนประมาณ 40 มก.  ซึ่งไม่เกิน200 มล สามารถดื่มได้อย่างสบาย ร่างกายรับได้โดยปกติ  หากไม่ดี่มเวลาใกล้กันเกินไป หากร่างกายขับออกมาทัน ซึ่งเวลาที่ดีในการดื่มกาแฟ คือ 10.00 โมงเช้าเป็นต้นไป  และตอนบ่ายคือ บ่าย2 โมง ช่วงนั้นร่างกายจะเริ่มล้า สามารถดื่มได้ ร่างกายดูดซึมได้เต็มที่

600 มิลลิกรัม  ทำให้หดหู่มาแทน  และวิตกกังวล

1,000 มิลลิกรัม จะทำให้มีอาการกล้ามเนื้อกระตุก ความคิดติดๆขัดๆ งุนงง สับสนใจสั่น หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ

ดื่มกาแฟถ้วยเล็กดีกว่า จะดีสำหรับผู้ที่ดื่มแก้ง่วง ควรดื่มกาแฟทีละน้อยแต่ดื่มไปตลอดวันเรื่อยๆ จิบ ๆ กาแฟจะเริ่มออกฤทธิ์ใน 15 นาที และอยู่ในร่างกายเราไปสักพัก การดื่มแบบนี้เราจะควบคุมประมาณคาเฟอีนให้พอดีกับร่างกายได้

โทษของกาแฟ

จะทำให้หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ มีการกระตุ้นทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้น

ความดันโลหิตจะสูงขึ้นนาน12ชั่วโมงหากมีความเครียดก็จะเครียดขึ้นอีก

หัวใจเต้นเร็วไม่เป็นจังหวะผิดปกติ

มีสารเสพติด หากไม่ได้ดื่ม จะทำให้ปวดหัว ง่วงนอน กระสับกระส่าย หากหยุดกระทันหัน

____________________

6 อาหารยิ่งกินยิ่งแก่ 

ความแก่เป็นสิ่งที่ทุกคนไม่ปรารถนาให้มาเยือน เพราะนอกจากจะทำให้ร่างกายดูเสื่อมโทรมแล้ว ความแก่ยังส่งผลต่อความมั่นใจของเราให้ลดลงด้วย โดยเฉพาะเพศหญิงแก่เร็วกว่าเพศชาย อาหาร 6 ประเภททำลายความสาว ยิ่งกินมาก ยิ่งแก่มาก มีดังนี้

1. อาหารที่มีไขมันสูงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์สามารถเปลี่ยนเป้นไขมันได้และลดการดูซึมแคลเซี่ยม วิตามินบี และวิตามินซี ซึ่งวิตามินทั้งสอง ช่วยในการจ้านอนุมูลอิสระของร่างกาย ดื่มมากยิ่งเร่งให้แก่มาก
2. เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน ได้แก่ ชา กาแฟ น้ำอัดลม เนื่องจากลดการดูดซึมของวิตามินบี และแคลเซี่ยม ซึ่งเป้นสารต้านอนุมูลอิสละ เหมือนกันกับกรณีดื่ม แอลกอฮอล์
3. อาหารที่มีไขมันสูง โดยเฉพาะไขมันอิ่มตัว เช่นของทอดๆ อาหารเมนูผักมันๆ เพราะไขมันดังกล่าวจะไปเพิ่มอนุมูอ้สระในร่างกายทำให้แก่เร็วขึ้น
4. อาหารทอดจากน้ำมันเก่า น้ำมันที่ทอดซ้ำแล้ว ซ้ำอีก จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีทำให้เกิดอนุมูลอิสระ และสารก่อเคมีในร่างกาย อันตรายและแก่ด้วย
5. อาหารปิ้งย่างที่เกรียมไหม้ มีสารก่อให้เกิดมะเร็ง ชื่อ เบนโซโพรีน ส่งผลเสียต่อร่างกายและทำให้แก่โทรมเร็ว
6. อาหารหมักดองและอาหารที่ปนเปื้อนสารพิษ เล่นสารตะกั่ว และ เชื้อแบคทีเรียในอาหาร ทีขายตามท้องถนนไม่ถูกสุขลักษณะเป็นบ่อเกิดของอนุมูลอิสระและบั่นทอนสุชภาพกาย ความแก่เร่งมาเยือน

นอกจากการหาร 6 กลุ่มที่กล่าวข้างต้น การส่งเสริมให้สุขภาพดี ไม่แก่ก่อนวัย ยังต้องดูแลให้เรื่องการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 6 – 8 ชั่วโมง ที่ถูกต้องควรเข้านอนก่อน 5 ทุ่มไม่ควรตื่นเร็วเกินไป การดื่มน้ำสะอาดวันละ 6 – 8 แก้วดีพอๆกับการที่คุณไปหลงดื่มคอลลาเจนเสียอีก นอกจากนี้แล้ว การทำจิตใจให้ร่าเริง ไม่ซีเรียส มองโลกในแง่บวก คุณก็จะพิชิตความแก่ให้สยบแทบเท้าเลยทีเดียวเชียวค่ะ ไม่อยากแก่ต้องเปลี่ยน!!!

____________________________________________________

ตั้งครรภ์ สีผิวดำคอดำ รักแร้ดำ ขาหนีบดำ แก้ไม่หายวิธีแก้รักแร้ดำผิวสวยเหมือนเดิม

ซึ่งหญิงตั้งครรภ์ตั้ง จะกังวลในเรื่องของ สีผิว เพราะขณะตั้งครรภ์ สีผิวจะเปลี่ยนแปลงเข้มขึ้น เป็นเรื่องธรรมชาติ ซึ่งที่พบได้บ่อย คือ รอบหัวนม เส้นกลางท้องคอ รักแร้  รอบอก แต่คลอดแล้วไม่ต้องตกใจ เพราะหลังคลอดแล้ว จะจางเอง สาเหตุเกิดจาก การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนจากรังไข่ รก และต่อมใต้สมอง อยู่ในเกณ์ที่สูงกว่าปกติในระหว่างตั้งครรภ์ โดยเฉพาะมีฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนซึ่งเป็นฮอร์โมนสำคัญในการตั้งครรภ์ และเป็นตัวการสำคัญที่กระตุ้นให้ผิวสีเข้มขึ้น แต่ต้องเข้าใจนะคะว่าไม่มีมีวิธีป้องกัน

9 เทคนิคการดูแลผิว

1.บำรุงผิวด้วยครีมบำรุง เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น หรือวิตามินอี ทาผิว ด้วยน้ำมันมะพร้าว มะกอก

2. สวมใส่เสื้อแขนยาว  หรืออุปกรณ์ป้องกันแสงแดด

3. ไม่สวมเสื้อรัดแน่นเพราะจะเสียดสีกับผิว  เน้นเป็นผ้าบางเบา

4. ทาครีมกันแดด  ก่อนออกแดด ทาครีมกันแดด 15-20 นาที

5. หลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่น

6. ดื่มน้ำให้เพียงพอ 6-8 แก้ว

7. ทานผลไม้บำรุงผิว  ที่มีวิตามินอี  วิตามินซี ส้ม

8. นอนหลับให้เพียงพอ

7 เคล็ดลับดูแลผิวหลังคลอดบุตรให้กลับมาสุขภาพดี

1. หลังคลอดหลายคนอยู่ไฟ เลี่ยงความร้อนไม่ได้ สิ่งที่ได้คือร่างกายยุบบวม แต่ผิวแห้งเหี่ยว เพราะฉะนั้นคุณแม่อยู่ไฟต้องชดเชยด้วยการดื่มน้ำในปริมารมากขึ้นเป็น 2 เท่าของปกติ
2. ทาครีม โลชั่น ที่เคยใช้ในระหว่างตั้งครรภ์ ต่อเนื่องอย่างน้อย 3 เดือน ย้ำ ต่อเนื่อง!!!
3. หลีกเลี่ยงการทาโรลออน น้ำหอม บริเวณรักแร้เพราะทำให้เหงื่อออกมาขึ้น ผิวคล้ำมากขึ้น
   หลีกเลี้ยงการใช้ฟองน้ำถูกรุนแรง
4. รับประทานผลไม้วิตามิน เอ ซี อี สูงช่วยให้ ผิวจางลง และแผลหายเร็วขึ้นด้วย
5. ใช้มะขาม โดยนำมะขามเปียกผสมกับน้ำผึ้งนิดหน่อยมาทาทิ้งไว้ 5 นาที แล้วล้างออก นอกจากทำให้ผิวขาวใสแล้ว ยังช่วยให้ผิวเนียนนุ่มได้อีกด้วย
6. มะนาว ที่เหลือจากก้นครัว ใช้มะนาวเอามาถูรักแร้ทิ้งไว้ 2-3 นาที จึงล้างน้ำออก ส่วนที่เหลือของมะนาวยังใช้ถูตามข้อพับ หัวเข่า ข้อศอกที่ดำๆ ได้อีกด้วย
7. เกลือสปา ใช้เกลือขัดผิวถูเบาๆ เน้นว่าเบาๆนะคะ ไม่เช่นนั้นเกลืออาจจะบาดรักแร้เอาได้ค่ะ-----------------------------------------------------------------------------------------

แก่ใครก็ไม่อยากได้ยิน  สิ่งที่ทุกคนปรารถนาตลอดเวลา ก็คือความสาว  เพราะนอกจากจะทำให้ร่างกายดูเสื่อมโทรมแล้ว ความแก่ยังส่งผลต่อความมั่นใจของเราให้ลดลงด้วย โดยเฉพาะเพศหญิงแก่เร็วกว่าเพศชาย อาหาร 6 ประเภททำลายความสาว ยิ่งกินมาก ยิ่งแก่มาก มีดังนี้

อาหารที่มีไขมันสูงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์สามารถเปลี่ยนเป็นไขมันได้

เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน ได้แก่ ชา กาแฟ น้ำอัดลม เนื่องจากลดการดูดซึมของวิตามินบี แคลเซียซึ่

เป็นสารต้านอนุมูลอิสละ เหมือนกันกับกรณีดื่ม แอลกอฮอล์

อาหารที่มีไขมันสูง โดยเฉพาะไขมันอิ่มตัว เช่นของทอดๆ อาหารเมนูผักมันๆ เพราะไขมันดังกล่าว

จะไปเพิ่มอนุมูลอิสระใน ร่างกายให้แก่เร็ว

อาหารทอดจากน้ำมันเก่า น้ำมันที่ทอดซ้ำแล้ว ซ้ำอีก จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีทำให้

เกิดอนุมูลอิสระ และสารก่อเคมีในร่างกาย อันตรายและแก่ด้วย

อาหารปิ้งย่างที่เกรียมไหม้ มีสารก่อให้เกิดมะเร็ง ส่งผลเสียต่อร่างกายและทำให้

แก่โทรมเร็ว

อาหารหมักดองและอาหารที่ปนเปื้อนสารพิษ เล่นสารตะกั่ว และ เชื้อแบคทีเรียในอาหาร ที

ขายตามท้องถนนไม่ถูกสุขลักษณะเป็นบ่อเกิดของอนุมูลอิสระ

นอกจากการทานอาหารแล้ว การที่สุขภาพจิตที่ดีปล่อยวางบ้าง  หลับพักผ่อนให้พอถึงเวลานอนพักอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง ตื่นขึ้นมาใบหน้าคุณก็จะสดใสมากขึ้นไปอีกค่ะ