วันจันทร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

วิธีทำน้ำพริกอ่อง

1.หมูบด 3 ขีด(ใช้เนื้อหมูส่วนติดมันเล็กน้อย)
2.มะเขือเทศราชินี 10 ลูก
3.พริกขี้หนูสดสีแดง 10 เม็ด
4.กระเทียม 5 กลีบ
5.หอมแดง 5 หัว
6.น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
7.น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
8.น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนชา
9.ผักเครื่องเคียง ถั่วผักยาว แตงกวา แล้วแต่ว่าใครชอบผักอะไร
10.ไข่ต้ม
#วิธีทำ
1.โขลกพริกสด กระเทียม หอมแดง ให้พอละเอียด
2.น้ำเครื่องแกงที่โขลกไปผัดในน้ำมันจนหอม
3.ใส่หมูบดลงไปผัด ใส่มะเขือเทศลงไป (หั่นให้เป็นชิ้นเล็กๆก่อนลงไปผัดจะทำให้สุกได้เร็วขึ้น)
4.เติมน้ำตาล น้ำปลา ปรุงรสชาติตามใจชอบ
5. ผัดจนมะเขือเทศสุกเป็นเนื้อเดียวกันกับหมู ถ้ามันแห้งให้เติมน้ำเปล่าลงไป ผัดไปสัก20 นาที จนเริ่มแห้ง ตักขึ้นยกเสริฟกับผักเครื่องเคียง


วันเสาร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

มาเช็คสัณญาณเตือนว่าสถานะการเงินคุณเริ่มไม่ดีแล้ว


 

สัณญาณเตือนภัยว่าสถานะทางด้านการเงินคุณเริ่มไม่ดีแล้วอาจจะเริ่มเกิดขึ้นบางข้อ ก่อนที่จะสายเกินไปหาทางป้องกันกันไว้ดีกว่า และ มีสติทุกครั้งในการใช้จ่าย



1. ใช้จ่ายเงินเกินตัว

ซื้อ, คอมเมิร์ซ, ผู้บริโภค, แฟชั่น, หญิงซื้อ, การ์ตูน, ตัวละครการ์ตูน, คอมเมิร์ซ

2.  จ่ายหนี้ได้ไม่เต็มจำนวน  20% ลดลงเหลือแค่ 10% หรือ จ่ายเกินกำหนด และค้างค่างวด



3.ถ้าคุณใช้จ่ายเกินตัว จะทำให้หนี้คุณไม่ลดลงสักที มีแต่เพิ่มขึ้น 


ตลาด, Mercao, ยุติธรรม, Souk, การจัดเก็บ


4.ถอนเงินเก็บมาใช้มากขึ้น




5. หากู้สินเชื่อที่อื่นมาปิดยอดบัตรเครดิต  แต่ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถลดภาระทางค่าใช้จ่ายรายเดือนของคุณได้ ซึ่งจะทำให้ยอดผ่อนของคุณลดลง แต่ทั้งนี้ คุณต้องมีสติและใจแข็งไม่นำบัตรเครดิตมารูดซื้อสินค้าอีก เพราะจะทำให้คุณ เกิดหนี้เพิ่มขึ้นไปอีก


6. เริ่มยืมเงินคนรอบข้าง  





เอมันนี่มาร์เก็ตวิลเลจสุวรรณภูมิอยู่ตรงไหน



Amoney มาร์เก็ตวิลเลจสุวรรณภูมิอยู่ตรงไหน
อยู่ชั้น 3 ติดธนาคารไทยพาณิชย์และร้านทำผมเบญจรงค์  
เบอร์โทร 02-002-1384
เวลาเปิดปิด วันจันทร์ถึงศุกร์  10.30-21.00 น วันเสาร์และอาทิตย์นักขัตฤกษ์ เวลา 10.00-21.00 น

เอมันนี่สีลมคอมเพล็กอยู่ตรงไหน



อยู่ตรงชั้น 5 ใกล้กับร้าน Amway 
 เบอร์โทร 02-6320022,02632-0024
เอมันนี่สีลมคอมเพล็กซ์เวลาเปิด-ปิด 
วันจันทร์ -อาทิตย์ 10.30-20.00 น. 
มีตู้ถอนเงินสด ATM A-money ด้วย

ซื้อรถซื้อบ้านซื้ออะไรก่อนดี




ชีวิตพนักงานประจำอย่างเรา หรือทำงานมาสักพัก มีความคิดที่จะมีทรัพย์สินเป็นของตัวเองสักชิ้นมีกำลังที่จะพอผ่อนได้  ทุกคนคงเคยมีความคิดว่า จะซื้ออะไรก่อนดี 

เรามาแยกกันเป็นข้อ ๆ นะคะ
ซื้อรถ
-เวลาเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับทุกคนในการทำงาน ติดต่องาน  เรียน  ส่งลูก เมือเวลาฝนตก

1155, ใช้เวลาในการคิดใหม่, ภัยพิบัติ

- ลดค่าเดินทาง  สำหรับการเดินทางหลายต่อ ที่ทำงานต้องติดต่อ งานหรือ ที่พักไกลที่ทำงาน
Mercedes-Benz, 220 S, รถเก๋ง, 6-Cyl

- สามารถขนของ สัมภาระไปที่ต่างๆ ได้ หรือขนของไปขาย ตามตลาดหารายได้อีกทาง

- รถมีค่าใช้จ่าย และมูลค่ารถ ลดลงทุกปี เพราะมีค่าเสื่่อม ค่าบำรุงการดูและรถ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง
 ค่าประกันภัย ค่าที่จอดเป็นที่สำคัญ

เบนซิน, น้ำมันเบนซิน, ดีเซล, ก๊าซ, ยานยนต์, ราคา


ลองพิจารณาดูข้อดีและข้อเสีย ของการมีรถ และเงินที่ต้องเสียกับการเติมน้ำมัน คุ้มค่ากับการใช้งานหรือไม่ 


ซื้อบ้าน 
คริสตจักร, วัด, ยอด, แสงแดด, บาวาเรีย


การออกแบบ, ครอบครัว, วันหยุด

- เป็นทรัพย์สิน ได้ในอนาคต สามารถ เป็นทำเลค้าขาย  เป็นออฟฟิศ ได้  เป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าเพิ่ม

-  บ้าน ต้องใช้ เงินเป็นจำนวนมาก ตั้งการติดตั้งแอร์ น้ำประปา รั้วบ้าน การตกแต่งภายใน

-  บ้านเป็นทีพักพิง  เป็นสิ่งที่มีค่าทางจิตใจ ของคงในครอบครัว


สรุป ได้ว่าเราจะตัดสินใจ  อีกอย่างหนึ่งคือ การเก็บออมหากคุณมีความพร้อมในการซื้อทั้งรถ และบ้านแล้ว  แล้วลองพิจารณา กับทางธนาคาร ว่าธนาคารไหน มีเงื่อนไขดี ที่เรามีเงินดาวน์วางสักก้อนในซื้อ  รหรือ อัตราดดอกเบี้ย บ้านที่น่าสนใจ หรือไฟแนนซ์ที่ไหนให้อัตราดอกเบี้ยที่ถูก  และของแถม หรือส่วนลด  ค่าบำรุง เป็นโปรโมชั่น 1 ปี


ทุกอย่างแล้วเราควร วางแผน พิจารณา วางแผน การเงิน อย่างรอบคอบและเราควรมีวินัยในการใช้การเก็บออม ทำให้คุณไปสู่เป้าหมายได้

วันอังคารที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

ตลาดนัดคนเดินเยอะที่สุดในกทมและปริมณฑล





          แบริ่งซอย3 ตลาดมิ่งค่ะสุขุมวิท 107 ปากซอยแบริ่ง 3  ว่างๆลองแวะมาเดินดูค่ะแต่เป็นตลาดเย็นนะคะ ขายตั้งแต่ช่วงบ่ายถึง3-4ทุ่มค่ะ แต่อาหารก็จะเริ่มขายหมดกันตั้งแต่ช่วงทุ่มกว่าๆค่ะ  หรือถ้ามาเส้นสุขุมวิทก็สุขุมวิท107ค่ะ

ในภาพอาจจะมี 2 คน, ฝูงชน และ สถานที่กลางแจ้งในภาพอาจจะมี 4 คน, ฝูงชน, ท้องฟ้า, สถานที่กลางแจ้ง และ อาหาร


ฝั่งธนเข้าไปในซอยตากสิน22เป็นตลาดนัดอาทิตย์นึงมี2นัดวันพุธกับสันเสาร์คนเย๊อะมากขายในแฟรตทหารเรือเข้าซอยไปถามใคร ใครก็รู้จัก ลองไปดูน๊ค๊



ตลาดนัดเรือบิน บางปลาสมุทรปราการ ตลาดนัดเรือบิน เปิดทุกวัน อังคาร-พุธ และ ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ เวลา 16:00-00:00
ติดต่อ 063-902-2473





ตลาดนัดสรรพาวุธ ตลาดนัดคลองเตย ตลาดนัดในซอยอ่อนนุช17 เปิดขายวันอาทิตย์วันเดียว
ข้อมูลติดต่อตลาดนัดกรมสรรพาวุธทหารเรือ
ที่อยู่ : ซอยตั้งอยู่ใต้อาคารแฟลตทหารเรือและโดยรอบตัวอาคาร แขวงแขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ
โทรศัพท์ : 08-5022-4225










 ตลาดรันเวย์ แถวร่มเกล้า ไนท์มาร์เก็ตเปิดใหม่ ใหญ่สุด!! ฮิตสุด!! ในแถบสุวรรณภูมิ-ร่มเกล้า-ลาดกระบัง
ประกาศเปิดรับ #Profileร้านค้า โอกาสดี ๆ ของคนมีของ!! (ขาย)
🛍️ โซน แฟชั่น : เสื้อผ้า ของใช้ ของตกแต่ง สินค้าแฟชั่น
🌮 โซน อาหาร (ยกเว้นเครื่องดื่ม)
📻 โซน ปูพื้น : ของเก่า / ของหายาก / สินค้าวินเทจ
ค่าเช่า 3,000 - 3,600 บาท / เดือน
*** ส่ง Profileร้านค้า ได้ที่ Sale Office #ตลาดนัดRunway3119 ตั้งแต่เวลา 15 : 00 - 22 : 00 น. หรือ E-mail
สอบถามเพิ่มเติม : 087-111-8585 , 087-111-7676
Line ID : @runway3119
E-mail : runway3119@gmail.com





ตลาดนกฮูก หรือตลาดเลี่ยงเมืองนนท์ตลาดนัดเลี่ยงเมืองนนท์ ตลาดนัดกลางคืนทุก ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ขายเปิด 6 โมงเย็น - 10โมงเช้า 
^^สำหรับพ่อค้าแม่ค้า^^
รายละเอียดเบื้องต้น
ปูพื้น ตั้งราว ขึ้นโครง 2 เมตร 50 บาท/ 4 เมตร 100 บาท
ของกิน 2เมตร×2.50เมตร 1 ล็อค 100บาท

**ไม่มีการจองล็อคล่วงหน้า** เปิดขายล็อควันแรก ศุกร์ที่ 29 ก.ค.59 เวลาบ่ายโมงจนถึงเที่ยงคืน ซื้อล็อคแล้วขายได้เลยจ้า..
ติดต่อได้ที่เบอร์ 080-434-9999 หรือ 063-303-2201 


เปิดยันเช้า! ตลาดเลี่ยงเมืองนนท์ ที่ชิคๆ สำหรับคนนอนดึก
เป็นตลาดเปิดยันเช้า ตลาดเลี่ยงเมืองนนท์



ตลาดมะลิเมืองทองย่านเมืองทองธานี
สินค้าแฟชั่น นำเทรนด์มีให้เลือกกันมากมายหลากหลายขึ้น!!
อาหารอร่อย ที่คัดสรรมาเอาใจนักชิมจุใจขึ้น!!
กิจกรรมพิเศษ ความบันเทิง ครบครันขึ้น!!
// สนใจพื้นที่ขาย ติดต่อด่วน!! // 
สำนักงานขาย โทร .063-2697462 / 063-2124922
เวลาทำการ 15.00-22.30น. ทุกวันค่ะ
คลิกรับแผนที่เดินทาง Google Maps >> https://goo.gl/maps/VBZXojB9WCk

ภาพผลการค้นหาตลาดมะลิเมืองทองภาพผลการค้นหาตลาดมะลิเมืองทอง








ผลภาพสำหรับตลาดนกฮูก




วันจันทร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

ป่วยเวลาให้นมลูกเลือกใช้ยาอย่างไรดี









ให้นมบุตร, การมีบุตร, แม่, เต้านม, นม

        ปัจจุบัน คุณแม่ยุคใหม่ได้หันมาให้ความสนใจเรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่มากขึ้น เนื่องจากรู้คุณประโยชน์ของนมแม่ว่ามีมากมาย แต่ถ้าคุณแม่ป่วยขึ้นมา  แต่จะทำยังไง จะทานยาแบบไหนได้ เพราะฤทธิ์ยาจะส่งผลมาทางน้ำนม ดังนั้นคุณแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ทีมีโรคประจำตัวที่ต้องใช้ยาประจำนั้นควรมีความรู้เกี่ยวกับการเลือกใช้ยาให้ลูกน้อยปลอดภัย
          หลักการทั่วไปสำหรับเลือกใช้ยา คือ พยายามหลีกเลี่ยงการใช้ยาหากไม่จำเป็น หลีกเลี่ยงการใช้ยาสูตรผสม ควรเลือกใช้ยาที่มีรูปแบบสูดพ่นหรือใช้ภายนอกก่อนยารับประทานและหากไม่แน่ใจว่าเลือกใช้ยาปลอดภัยต่อลูกน้อย ควรปรึกษาแพทย์ หรือ เภสัชกร ไม่ควรเสี่ยงใช้ยาไป อาจเกิดอันตรายต่อลูกได้
การเลือกใช้ยาในโรคที่พบบ่อย สำหรับคุณแม่ให้นมลูก
ยาลดไข้ ระงับปวด หรือต้านการอักเสบ : เลือกใช้ยาพาราเซตามอล (paracetamol) หรือ
ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) ได้

ยาลดน้ำมูก ลดอาการคัดจมูก :  แนะนำใช้ยาลดน้ำมูกชนิดที่ไม่ทำให้ง่วงเช่น ยาเซทิริซีน (Cetirizine) หรือใช้ยาแก้คัดจมูกในรูปแบบพ่น ไม่ควรใช้ยาลดน้ำมูกชนิดง่วงเพราะทำให้เด็กง่วงซึมได้ และยาแก้อาการคัดจมูก เช่น ยาซูโดเอฟีดรีน (pseudoephedrine) เพราะอาจมีผลยับยั้งการหลั่งน้ำนม
ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย : ยาที่สามารถใช้ได้ผ่านเข้าสู่น้ำนมน้อย ได้แก่ อะม็อกซีซิลลิน (Amoxicillin)  แต่ยานี้อาจทำให้เกิดปฏิกิริยาการแพ้ในทารกได้ จึงควรเฝ้าระวังอาการที่ไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นได้
ยาลดกรด : ยาลดกรดที่แนะนำคือยาอลัมมิล (Alum milk) และรานิทิดีน (Ranitidine)
ยาแก้คลื่นไส้อาเจียน : ดอมเพอริโดน (Domperidone)

ยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ห้ามใช้ในหญิงให้นมบุตร ซึ่งพบได้บ่อย
- ยาแก้ไมเกรนเออร์โกตามีน (Ergotamine) ทำให้ทารกเกิดอาเจียน ท้องเสีย และชักได้
- ยารักษาสิวในกลุ่มกรดวิตามินเอ ชนิด รับประทาน เช่น ไอโสเตรติโนอิน (Isotretinoin)
- การใช้ยารักษาสิวฆ่าเชื้อเตตราไซคลีน (tetracycline) ในระยะยาว
- ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่โฆษณาว่าลดความอ้วนซึ่งอาจผสมไซบูทรามีน (sibutamine)

ที่มา เวปไซด์ อย www.oryor.com

เตือนภัยวัยรุ่น อย่าริลอง ยาซอมบี้











มือ, ลำต้น, น่าขนลุก, ซอมบี้, ป่า

จากกรณีที่มีการแชร์คลิปชายชาวต่างประเทศที่มีลักษณะคลุ้มคลั่งเหมือนไม่ใช่คน ใช้ศีรษะโขกกระจกหน้ารถเมล์อย่างบ้าคลั่ง และคลิปหญิงสาวนั่งอยู่ที่กระบะรถตำรวจ ตาแข็ง ลักษณะคล้ายคนเมา โดยสันนิษฐานว่าเกิดจากยาเสพติดที่เรียกว่า Flakka (ฟลัคก้า), Bath Salts หรือยาซอมบี้ นั้น


สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)  ได้ตรวจสอบข้อมูลพบว่า ฟลัคก้า (Flakka) มีชื่อทางเคมีว่า α-Pyrrolidinovalerophenone (α-PVP,อัลฟ่า-พีวีพี) ถูกควบคุมตามอนุสัญญาว่าด้วยวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ค.ศ.1971 มีลักษณะเป็นผงสีขาวคล้ายเกลือ  ไม่มีกลิ่น มีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาท ทำให้หัวใจเต้นเร็ว รูม่านตาขยาย ประสาทหลอน กล้ามเนื้อกระตุก ชักเกร็ง โรคจิตหวาดระแวง ระบบการหายใจบกพร่อง การทำงานของตับผิดปกติ ไข้ขึ้นสูง เจ็บหน้าอก  เกิดอาการชัก ซึ่งในต่างประเทศพบว่ามีการเสียชีวิตมากกว่า 130 คน บางรายเกิดผลต่อระบบประสาท หลอดเลือดและหัวใจ และอาจทำให้เกิดพฤติกรรมการแสดงออกทางจิตที่รุนแรง รูปแบบที่ใช้ส่วนใหญ่อยู่ในรูปของผงและเม็ด จำหน่ายทางอินเทอร์เน็ตและในตลาดที่ขายยาผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตาม อย. ได้เสนอให้ควบคุมสารอัลฟ่า-พีวีพี เป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 โดยผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษแล้ว และขณะนี้อยู่ในระหว่างการเสนอ (ร่าง) ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขลงนาม

ไปเที่ยวต่างจังหวัดควรพกยาอะไรไปด้วย






ก่อนจัดกระเป๋าไปเที่ยว อย่าลืมเป็นห่วงสุขภาพตัวเองกันด้วยนะคะ หากระหว่างเที่ยวเกิดป่วย หรือไม่สบายขึ้นมา การเตรียมยาติดกระเป๋าไว้เบื้องต้น ถือว่าเป็นประโยชน์มาก ๆ เลยค่ะ อาการป่วยพื้นฐานที่ทุก ๆ คนอาจจะเป็นได้ตอนเที่ยว คงหนีไม่พ้น ปวดหัว ตัวร้อน เป็นไข้ ท้องเสีย ผื่นแพ้ เมารถ เมาเรือ วันนี้จึงมาแนะนำยาเบื้องต้นที่ควรจะพกติดกระเป๋าเวลาไปเที่ยวให้ทุกคนได้เซฟกันเอาไว้ เป็นประโยชน์มาก ๆ เลยค่ะ
1.แก้ท้องเสีย 
การไปท่องเที่ยวต่างถิ่น หรือการรับประทานอาหารท้องถิ่นที่อาจจะไม่เคยกินมาก่อน อาจทำให้เกิดอาการท้องเสียได้ โดยยาเบื้องต้นสำหรับอาการท้องเสียประกอบด้วย ยาถ่าน และผงเกลือแร่สำหรับท้องเสีย 

น้ำมันหอมระเหย, ดอกไม้, น้ำหอม
2.แก้แพ้ แก้ปวด แก้ไข้
ยาแก้แพ้ แก้ปวด แก้ไข้นั้น การแค่พกติดกระเป๋าเดินทางคงไม่พอ แต่อาจจะต้องพกติดตัวไว้เลย ในกรณีที่อากาศเปลี่ยน อาจจะเป็นช่วงหน้าหนาว หน้าฝน หรือปีนเขา ขึ้นเขา จนร่างกายมีไข้ ก็ควรที่จะพกยาแก้ปวด แก้ไข้ ติดตัวไว้เลย เพื่อที่จะสามารถรับประทานยาได้ทุกเมื่อที่มีอาการ หรือแม้กระทั่งยาแก้แพ้ ทั้งแบบง่วง และไม่ง่วง อาจพิจารณาตามความเหมาะสม ก็ควรจะมีติดตัวไว้ เนื่องจากเราอาจมีอาการ แพ้อาหาร แพ้แมลง หรืออื่น ๆ ที่เราอาจไม่สามารถรู้ล่วงหน้าก็ได้


3.ยาเฉพาะสำหรับแต่ละบุคคล
หมวดนี้จะขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่ามียาประจำ หรือยาเฉพาะที่ต้องรับประทานเป็นประจำแต่ต่อเนื่องอยู่เดิมแล้วหรือไม่ เช่น ยาสำหรับโรคประจำตัว โรคหอบหืด ยาสำหรับโรคเรื้อรัง โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน สาว ๆ บางท่านต้องรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดทุกวันเป็นต้น
เครื่องวัดอุณหภูมิ, ปวดหัว, ความเจ็บปวด
4.ยา และอื่น ๆ เพิ่มเติม
ไม่ว่าจะเป็น ยาดม ยาหม่อง ยาทาแก้ปวด ยาทาแก้เคล็ดขัดยอก โดยพิจารณาตามสถานที่ที่ไปท่องเที่ยว สิ่งจำเป็นสำหรับเมื่อเกิดบาดแผล เช่น พลาสเตอร์ปิดแผล ผ้าก็อตปิดแผล โพวิโดนไอโอดีน ใส่แผล และยาแก้เมารถเมาเรือ 

ปวดหัวแต่ละแบบบอกอะไรเรา








อาการปวดหัว นอกจากจะส่งผลเสียต่อร่างกายแล้ว ยังส่งผลให้คุณภาพชีวิตแย่ลงอีกด้วย การปวดหัว เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การเจ็บป่วย ความเครียด การอดอาหาร พักผ่อนไม่เพียงพอ การออกกำลังกายมากไป สภาพแวดล้อม เช่น อากาศ แสงสว่าง
อาการปวดหัวแบ่งเป็นหลายประเภท โดยแต่ละประเภทมีสาเหตุของโรค อาการ และการรักษาหรือการใช้ยาเบื้องต้นที่แตกต่างกันไป ดังนั้นการสังเกตตนเองว่ามีอาการปวดหัวแบบไหน ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก ซึ่งอาการปวดหัวที่พบบ่อย ได้แก่

1. ปวดศีรษะจากความเครียด
พบบ่อยสุด ลักษณะการปวด คือ กด บีบ หรือรัดแน่นทั้ง 2 ข้าง กินยาแก้ปวดธรรมดา เช่น ยาพาราเซตามอล หรือยาแก้อักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ได้ เช่น ยาไอบูโพรเฟน แต่หากปวดบ่อกว่า 15 วันต่อเดือน นาน 6 เดือน หรือนานกว่า ควรปรึกษาแพทย์
2. ปวดศีรษะไมเกรน
พบในผู้หญิงมากกว่า มีความสัมพันธ์กับรอบเดือน และมีปัจจัยกระตุ้น เช่น แสงจ้า เสียงดัง มักปวดหัวข้างเดียวแบบตุบ ๆ อาจมีอาการคลื่นไส้ หรืออาเจียนร่วมด้วย ปวดนาน 4-72 ชั่วโมง อาจใช้ยา พาราเซตามอล หรือยาแก้อักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ หากไม่ได้ผลควรปรึกษาแพทย์
3. อื่น ๆ
- ปวดหัว แบบคลัสเตอร์ ปวดหัวเป็นชุด ๆ มักปวดรุนแรงเวลาเดิมของทุกวัน ร่วมกับปวดบริเวณเบ้าตา อาจมีตาแดง หรือน้ำตาไหลร่วมด้วย ควรปรึกษาแพทย์
- ปวดหัว จากไซนัสอักเสบ ปวดหัวร่วมกับมีอาการไซนัส ปวดบริเวณโหนกแก้ม และหน้าผาก ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรักษาอาการไซนัสอักเสบที่เป็นต้นเหตุ และอาจใช้ยาพาราเซตามอลเพื่อบรรเทาอาการปวด
- ปวดหัว จากฮอร์โมน เกิดจากฮอร์โมนที่มีการเปลี่ยนแปลงของเพศหญิง เช่น ช่วงตั้งครรภ์ ช่วงที่กินยาคุมกำเนิด หรือช่วงวัยทอง ใช้ยาแก้อักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์เพื่อบรรเทาอาการปวด และอาจปรึกษาแพทย์เพื่อใช้ยาป้องกัน


4วิธีใช้เงินแบบเศรษฐีญี่ปุ่น








4 วิธีใช้เงินแบบเศรษฐีญี่ปุ่น

คนที่ประสบความสำเร็จกับคนที่ไม่ประสบความสำเร็จต่างกันตรงไหน? ความสามารถ? สติปัญญา? รูปร่าง หน้าตา? คนญี่ปุ่นมองว่า คนสองกลุ่มนี้แตกต่างกันที่ วิธีคิดค่ะ ลองมาดู 4 วิธีคิดของผู้บริหาร นักธุรกิจญี่ปุ่นที่ประสบความสำเร็จกันนะค่ะว่า คนกลุ่มนี้มีวิธีใช้เงินที่แตกต่างจากคนธรรมดาอย่างไร

1. อิสรภาพจากสายตาคน
สู่อิสรภาพในการใช้เงิน
กิโมโนที่มีราคาแพงจริงๆ ด้านนอกจะดูเรียบธรรมดา แต่ด้านใน ทอเป็นลวดลายดอกไม้หรือลายมังกรละเอียดสวยงาม แต่ คนภายนอกไม่รุ้ว่าความงามเหล่านั้น มีแค่ผุ้สวมใส่ที่รู้ ว่าชุดกิมโนชุดนั้นนุ่มสบาย คนญี่ปุ่นมองว่า เราไม่จำเป็นต้องแสดงออกให้ผู้อื่นรู้ถึงฐานะ คนรวยไม่จำเป็นต้องใส่สร้อยทองเส้นใหญ่ๆ หรือขับรถหรูๆ  หรือเพชรเม็ดโตเพื่อแสดงว่าฉันเป็นใคร เราเป็นคนธรรมดา เราจะได้รู้ว่าคนอื่นจะปฏิบัติกับเราแบบไหน และเราจะได้รู้จักคนคนนั้นอย่างแท้จริง
จงอย่าใช้เงินเพื่อภาพลักษณ์ตัวเอง แต่จงใช้เงินเพื่อผู้อื่น
มันจะไม่มีที่สิ้นสุดหากเรามัวแต่มองว่า ฉันต้องถือกระเป๋ายี่ห้อนี้ ขับรถรุ่นนี้ ทานอาหารที่ร้านนี้ เพราะต้องการแสดงว่าฉันเป็นคนมีระดับ
ผู้บริหารญี่ปุ่นพาลูกน้องไปเลี้ยงอาหารค่ำที่ภัตตาคารหรู ไม่ใช่เพราะอยากให้ลูกน้องเห็นว่าตัวเองมีสตางค์ แต่เพราะต้องการแสดงความรู้สึกขอบคุณอย่างลึกซึ้งที่ลูกน้องร่วมเหนื่อยยากกันมา
เจ้าของธุรกิจสวมเสื้อผ้าแบรนด์ดัง เพราะรูปแบบแพทเทิร์นดี เนื้อผ้าดี ไม่ได้ใส่เพราะอยากให้คนเห็นโลโก้ของแบรนด์นั้นแล้วรู้ว่าตนมีปัญญาซื้อ
การใช้เงินไปกับสิ่งที่ตนเองรัก หรือเพื่อคนที่ตนเองรักจะทำให้เรามีอิสระและมีความสุขในการใช้เงินมากกว่าการใช้เงินเพื่อรักษาหน้าตาและภาพลักษณ์ของตนเองเพียงอย่างเดียว




2. การใช้เงินคือการลงทุน
จงถามตัวเองว่า สิ่งที่เรากำลังจะใช้เงินต่อจากนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อเราในอนาคตหรือเปล่า
คนเรามักจะเผลอใช้เงินกับของมูลค่าเล็กน้อยไปอย่างง่ายดาย เช่น ค่าแท๊กซี่ ค่าอินเทอร์เน็ต ค่าเครื่องเขียน แต่หากรวมกันแล้ว เงินจำนวนนั้นก็ไม่ใช่จำนวนน้อยเลย
จงถามตัวเองทุกครั้งก่อนจะซื้อของว่า ของที่ตัวเองจะซื้อนั้นมีประโยชน์จริงหรือเปล่า และเราจะได้อะไรกลับมาในอนาคต ไม่ว่าของสิ่งนั้นจะมีราคาถูกหรือแพง เช่น การที่เราตัดสินใจเสียเงิน 200 บาทขึ้นรถแท็กซี่แทนที่จะเสีย 13 บาทขึ้นรถประจำทางนั้น มีประโยชน์ต่อตนเองจริงหรือเปล่า หากนั่งแท๊กซี่แล้ว ตนเองมีเวลาทำจิตใจให้สงบและซักซ้อมบทสนทนาก่อนไปพบลูกค้า โอกาสที่ลูกค้าจะเซ็นสัญญากับบริษัทก็สูงขึ้น เงิน 200 บาทนั้นก็ถือเป็น การลงทุนที่คุ้มค่า




3. ยิ่งใช้เงิน ยิ่งได้เงิน
คนธรรมดาจะมุ่งแต่จะเก็บเงินที่หามาให้ได้มากที่สุด หามาเท่าไรก็จะพยายามเก็บออมอย่างเดียว แต่คนญี่ปุ่นที่ประสบความสำเร็จไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตาเก็บเงินอย่างเดียว แต่รู้จักใช้เงิน (อย่างฉลาด) ด้วย พวกเขาจะมองว่า ตนควรจะ ลงทุน ไปกับอะไรดี จึงจะเกิดผลที่คุ้มค่าที่สุด
หนึ่งในการลงทุนที่คนญี่ปุ่นเห็นว่าคุ้มค่ามากนั้นคือ การลงทุนกับตัวเอง
จงใช้เงินเพื่อสร้างทักษะความรู้เพื่อตนเอง เช่น ไปลงคอร์สอบรมเพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้และนำกลับมาใช้กับองค์กร หรือเรียนคอร์สปรับบุคลิกภาพและวิธีการแต่งกาย เพื่อได้รับความเชื่อถือและไว้วางใจจากลูกค้า
จงใช้เงินเพื่อสร้างและรักษาความสัมพันธ์กับเพื่อนฝูง ไปทานข้าวกัน คุยกัน สนิทกัน อาจมีโอกาสที่เพื่อนๆ เหล่านี้แนะนำงานต่อให้เรา
เงิน หากใช้ (ลงทุน) อย่างถูกวิธี ก็จะวกกลับมาหาผู้ใช้คนนั้นอีก




4. คาถาเรียกเงินแบบญี่ปุ่น
ยิ่งก้าวไปในตำแหน่งสูงมาก มีฐานะมาก มีโอกาสที่จะได้รับคำชื่นชม สรรเสริญจากคนรอบๆ ตัวมาก ใครๆ ก็เรียกท่านคะ ท่านครับ มีแต่คนคอยดูแลเอาใจ พอเคยตัวมากๆ ก็จะเกิดเมฆหมอกบังตาว่า ข้าเก่ง ข้าเจ๋งที่สุดสุดท้าย อาจประมาท และตัดสินใจอะไรผิดพลาดไปก็ได้
เพราะฉะนั้น บริษัทญี่ปุ่นหลายๆ แห่งมีนโยบายให้ผู้บริหารระดับสูงไปเก็บขยะหรือขัดห้องน้ำร่วมกับพนักงานคนอื่นๆ สิ่งเหล่านี้ถือเป็นการฝึกผู้บริหารไม่ให้ลืมตน ไม่ให้ลืมความยากลำบากของพนักงานที่อยู่ระดับล่าง และมองว่าตนเองก็เป็นพนักงานที่ต้องทำงานเพื่อองค์กรเหมือนกัน
สิ่งหนึ่งที่ผู้ประสบความสำเร็จทุกคนมี คือ การรู้จักขอบคุณผู้อื่นการไม่ลืมบุญคุณผู้อื่น การสังเกตและแสดงความรู้สึกซาบซึ้งสิ่งที่ผู้อื่นทำ แม้จะเป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ให้กับตนเองเป็นสิ่งสำคัญมาก
จงอย่าลืม คำขอบคุณอย่าลืมว่าความสำเร็จของเราไม่ได้เกิดจากความสามารถของเราเพียงแค่คนเดียว หันไปมองคนรอบๆ พยายามนึกว่าใครช่วยให้เราประสบความสำเร็จในแต่ละชิ้นงาน และกล่าวชื่นชมขอบคุณพวกเขาอย่างจริงใจ
การแสดงความรู้สึกขอบคุณ ไม่ว่าจะเป็นคำพูด การ์ดขอบคุณ หรือสิ่งของเล็กๆ น้อยๆ จะทำให้ผู้ที่เราทำงานด้วยรู้สึกดีใจ และภูมิใจในตัวพวกเขาเอง พวกเขาพร้อมที่จะช่วยเหลือและทำงานเพื่อองค์กรต่อไป




17อาการเตือนว่าคุณจะเป็นโรคไต

1.    ปวดแสบปวดร้อนเวลาปัสสาวะ ที่เกิดจากทางเดินปัสสาวะอักเสบซึ่ง  มักจะพบในเพศหญิง แต่หากพบในเพศชายจะต้องตรวจหาสาเหตุ เช่นน...